BLACKJACK

: หากผลรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 21 ให้นับว่าเป็นแบล็คแจ็ค ซึ่งแบล็คแจ็คจะจ่าย 3 ต่อ 2 และแบล็คแจ็คจะชนะไพ่อื่น ๆ ทุกใบในมือที่มีค่ารวมเท่ากับ 21

HIT

: แตะที่ปุ่ม “เรียก” เพื่อรับไพ่แจกพร้อมกับไพ่เพิ่มเติมให้กับมือปัจจุบัน ซึ่งหากผลรวมนั้นเกิน 21 จะถือว่ามือนั้นบัสด์ และผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันโดยไม่คำนึงว่าไพ่ในมือของเจ้ามือมีค่าเท่าใด หากไม่เป็นไปตามนั้น ให้ดำเนินเกมต่อไป

STAND

: แตะที่ปุ่ม “อยู่” เพื่อสิ้นสุดตาของผู้เล่น และเริ่มตาของเจ้ามือ (หรือไปยังมือถัดไปของผู้เล่น หากเปิดใช้งานการแยกไพ่ไว้ก่อนหน้าระหว่างที่เล่นเกม) ซึ่งไพ่ในมือจะอยู่โดยอัตโนมัติ เมื่อผลรวมของไพ่คือ 21

SPLIT

: หากไพ่สองใบแรกของผู้เล่นมีค่าเดียวกัน (เช่น 5 – 5, 10 – 10, คิง – คิง) จะสามารถกดปุ่มแยกไพ่ได้ เมื่อผู้เล่นเลือกทำการ เรียก, อยู่, หรือดับเบิ้ล ปุ่มแยกจะไม่สามารถใช้งานได้: แตะที่ปุ่มแยกไพ่ เพื่อแยกไพ่ทั้งสองใบเป็นมือต่างหาก: ผู้เล่นสามารถแยกไพ่ออกเป็นมือต่างหาก ได้เพียง 1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น: สำหรับไพ่ที่แยกทั้งหมด ผู้เล่นสามารถเรียกไพ่ได้หลายครั้ง: ในมือที่แยก เอซที่คู่กับไพ่ที่มีค่า 10 จะนับเป็น 21 แต่ไม่แบล็คแจ็ค

DOUBLE

: ผู้เล่นสามารถแทงเพิ่มสองเท่าหากเป็นไพ่ที่มีค่าเดี่ยว ๆ (โดยผลรวมนั้นจะไม่นับเอซรวมด้วย) ของ 9, 10, หรือ 11: การลงเดิมพันสองเท่านั้นจะเท่ากับเดิมพันเริ่มต้น: แตะที่ปุ่ม สองเท่า เพื่อรับแจกไพ่โดยมีไพ่พิเศษหนึ่งใบ จากนั้นไพ่ในมือจะอยู่โดยอัตโนมัติ: ไม่สามารถทำการลงสองเท่าได้หลังจากทำการแยกไพ่: เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่จนได้แต้ม 16 แล้วอยู่เมื่อได้แต้ม 17 หรือสูงกว่า (รวมถึงแต้มซอฟต์ 17) หากมือที่เป็นไปได้ทั้งหมดของผู้เล่นบัสด์ เจ้ามือจะไม่จั่วเพิ่มเพียงแค่ใบเดียว: หากผลรวมของไพ่สองใบแรกของเจ้ามือนั้นไม่ใช่ 21 ผู้เล่นจะสูญเสียเดิมพันที่ได้มีการประกันใด ๆ ที่มีอยู่